เทคนิค พิชิตบาคาร่า "แกงโฮะ"(1)

[ติงลี่]

ผมอ่านแล้ว อยากจะขอเสริม ในการเล่นบาคาร่าสไตล์การลงทุนในตลาดหุ้น

>>การซื้อหุ้นในราคาเฉลี่ย เพื่อหนีปัญหาราคาผันผวนของหุ้น นักลงทุนบางคนจะใช้วิธีทยอยซื้อเก็บทุกๆ เดือน โดยไม่สนใจราคาในขณะนั้นว่าสูงหรือต่ำ พอสิ้นปีจะได้ราคาหุ้นเป็นราคาเฉลี่ยทันที

>>การเล่นบาคาร่าแบบมีเงื่อนไข ใช้หลักการคล้ายกับการเล่นหุ้นสไตล์นี้เลย เช่นหุ้นตัวหนึ่งเราซื้อมาราคา 10 บาท/หุ้น เราตั้งเป้ากำไร/ขาดทุนไว้ +/-20% ถ้ามันลงไป 8 บาทถึงจุดนี้ก็ต้องขายทิ้ง (cut loss) แต่ถ้ามันขึ้นไป 12 บาทเราก็ขายทำกำไร

>> แต่ถ้าเล่นสไตล์ลงทุนโดยอิงกับข้อมูลธุรกิจ ก็จะใช้อีกเงื่อนไขหนึ่ง เช่น หุ้นราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะมีข่าวดีแต่ว่าไม่ขาย จะขายก็ต่อเมื่อมันสูงเวอร์ๆ เกินความเป็นจริงหรือมองเห็นหุ้นตัวอื่นให้ผลตอบแทนดีกว่า ซึ่งนักลงทุนต้องรู้ว่า ราคาโอเวอร์ควรจะเป็นกี่บาท เพราะเวลามันลงมักจะหนักหน่วงพอๆ กัน ส่วนเวลามันลงก็ต้องดูปัจจัยทางธุรกิจประกอบ ไม่จำเป็นต้องรีบขายทุกครั้ง  ...

>>แทงบาคาร่าด้วยเงื่อนไข เพื่อหนีเรื่องการรอคอยจังหวะหรือโอกาส อาจจะตั้งเงื่อนไขขึ้นมา เช่น แทงเฉพาะ 15-20 เปิดแรกด้วยหลักการหนึ่งๆ หรือแทงทุกๆ 2 เปิด หรือทุกๆ 3 เปิด เพื่อให้ถึงเป้าแล้วหยุด ขณะเดียวกันถ้าติดลบ เช่น หลักการของผมคิดขึ้น จากการทดลองกับขอนไพ่ 500 ขอน พบว่ามีเปอร์เซ็นต์ tolerance +/-4 หน่วย ดังนั้นเวลาเล่นจริงๆ ถ้าผล -4 หน่วยจะหยุดทันที (cut loss) ไปเริ่มขอนใหม่ หรือถ้า +4 หน่วย หรือใกล้เคียงก็หยุดทันทีแม้ว่าภาพรวมจะขาดทุนก็ตาม เพราะผลกำไร/ขาดทุนมันวิ่งเข้าใกล้ค่าเฉลี่ยของขอนไพ่แล้ว ซึ่งการเล่นแบบนี้ต้องมองในระยะยาว..นี่เป็นวิธีเล่นแบบมีเงื่อนไข ในแบบที่ผมเข้าใจ

ครับก็มีลักษณะคล้ายๆ กับ investor หรือ speculator นั่นเองครับ

นอกจากการ cut lose ที่ -4 ตามที่ท่านกระสุนปืนใหญ่ได้อธิบายนี้ ผมจะขอเพิ่มเติมหน่อยนะครับ ถ้าท่านใดจะใช้วิธีการ cut lose จะต้อง run การเล่นยาวจนชนิดเรียกว่าจบขอนกันเลยทีเดียว แต่ถ้าตรงจุดไหนที่คิดว่ากำไรสูงเช่น

เคยสูงสุดที่ +15 หน่วย ถ้าได้ ประมาณ 8 - 12 หน่วยบางครั้งก็หยุดเล่นก็ได้ครับ เพราะบาง case อาจจะลดลงได้เมื่อเข้าช่วงท้ายขอน

ดังนั้นการ cut lose จะต้องมีความสัมพันธ์กับ progression ด้วยครับ  เช่น ถ้าวาง flat ใน system ที่มีเงื่อนไข ก็จะ cut lose กันที่ -4 หน่วย
ถ้าวางมากกว่า เช่น 12    ก็จะ cut lose กันที่ -6 หน่วย
ถ้าวาง 1 3 ก็จะ cut lose กันที่ -8 หน่วย

ดังนั้นหลายๆ ท่านก็ควรเลือก และประเมินดูว่า จะเหมาะสมกับ กับเล่นแบบใด ที่เหมาะสมกับตนเอง

โดยปกติ system หรือตามที่บ้านเราจะเรียกกัน ว่าสูตรนั้น  จะมี แค่ 2 ประเภท

1.เงื่อนไข
2.Pattern ของ การออก เช่น PPP ต่อไปควรจะเป็นอะไร ตรงนี้ครับที่เรียกว่า pattern

 ส่วนเครื่องหมายไม่ว่าจะเป็น /X หรือ WL ที่หลายๆ ท่านใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ  จะไม่ได้เรียกเครื่องหมายนี้ว่าเป็น  Pattern  แต่เป็นตัวบอกว่า เงื่อนไข หรือ Pattern นั้นทำให้เกิดค่า /X หรือ WL เป็นเช่นไร  เยอะ น้อย ปานกลาง หรือเท่ากัน เป็นต้น

[ติงลี่]

ขอบคุณมากครับท่านติงลี่ ทำให้ผมได้รู้เรื่องต่างๆ เกี่ยวกับบาคาร่า มากมาย เกิดมุมมอง แตกแนวคิด ไปได้อีกเยอะจริงๆ  อยากบอกว่า สุดยอดครับ ท่านติงลี่
(รวมถึงคนอื่นๆด้วยที่ได้อ่านกระทู้นี้)

ตัวอย่างการเล่นตามเครื่องหมาย ที่ท่านยกตัวอย่างมา ถูกใจผมมาก ไว้โอาสหน้าผมจะเล่าให้ฟัง ว่าผมเล่นตามเครื่องหายอย่างไร?

ฝากเรื่องการโพสรูป เมื่อก่อนผมก็เคยเจอปัญหานี้ ท่านมาเฟีย เขียนไว้แล้ว ถึงวิธีการโพส

http://www.zeancasino.com/webboard/index.php/topic,208.0.html

ยินดีครับ บางเรื่องที่ผมเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เป็นเรื่องหลักๆ และอยากให้ท่านๆ ได้รับรู้ไว้ก็เขียนไปส่วนใหญ่แล้ว ดังนั้นถ้าท่าน เนตรทิพย์ หรือท่าน saterndeath  และอีกหลายๆ ท่าน  นำไปไตร่ตรอง ให้ดี คำตอบ ในข้อ 1 ที่ผมถามว่า ห่วงยาง แพยาง กลางทะเลนั้น  ท่านจะมีชีวิตรอดกลับเข้าฝั่งได้อย่างแน่นอนครับ และถ้าท่าน เนตรทิพย์ หรือท่าน saterndeath หรือพี่ๆ น้องๆ อีกหลายๆ ท่านได้ไตร่ตรองแล้ว และเลือก ประเภทของพฤติกรรม และวิธีการ ที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ และค่อยๆ ก้าวเดินไป  ตรงนั้นก็คือ วิธีการชนะอีกวิธีหนึ่งที่ค่อนข้างแน่นอนเหมือนกัน มีผิดบ้างมีถูกบ้าง เพราะมันเป็นธรรมชาติของเกมที่มี chance 50/50 ตรงนี้ก็อย่าใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง    และเมื่อถึงจุดที่ท่าน saterndeath ตกผลึกอย่างจริงจัง และเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว  คะแนนคำตอบ ที่ท่านเคยตอบได้ 9 คะแนน ก็จะกลายเป็น 10 คะแนนเต็มทั้ง 2 ข้อครับ 

[saterndeathh]

ขอบคุณมากครับท่านติงลี่ ทำให้ผมได้รู้เรื่องต่างๆ เกี่ยวกับบาคาร่า มากมาย เกิดมุมมอง แตกแนวคิด ไปได้อีกเยอะจริงๆ  อยากบอกว่า สุดยอดครับ ท่านติงลี่
(รวมถึงคนอื่นๆด้วยที่ได้อ่านกระทู้นี้)

ตัวอย่างการเล่นตามเครื่องหมาย ที่ท่านยกตัวอย่างมา ถูกใจผมมาก ไว้โอาสหน้าผมจะเล่าให้ฟัง ว่าผมเล่นตามเครื่องหายอย่างไร?

ฝากเรื่องการโพสรูป เมื่อก่อนผมก็เคยเจอปัญหานี้ ท่านมาเฟีย เขียนไว้แล้ว ถึงวิธีการโพส

http://www.zeancasino.com/webboard/index.php/topic,208.0.html

ยินดีครับ บางเรื่องที่ผมเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เป็นเรื่องหลักๆ และอยากให้ท่านๆ ได้รับรู้ไว้ก็เขียนไปส่วนใหญ่แล้ว ดังนั้นถ้าท่าน เนตรทิพย์ หรือท่าน saterndeath  และอีกหลายๆ ท่าน  นำไปไตร่ตรอง ให้ดี คำตอบ ในข้อ 1 ที่ผมถามว่า ห่วงยาง แพยาง กลางทะเลนั้น  ท่านจะมีชีวิตรอดกลับเข้าฝั่งได้อย่างแน่นอนครับ และถ้าท่าน เนตรทิพย์ หรือท่าน saterndeath หรือพี่ๆ น้องๆ อีกหลายๆ ท่านได้ไตร่ตรองแล้ว และเลือก ประเภทของพฤติกรรม และวิธีการ ที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ และค่อยๆ ก้าวเดินไป  ตรงนั้นก็คือ วิธีการชนะอีกวิธีหนึ่งที่ค่อนข้างแน่นอนเหมือนกัน มีผิดบ้างมีถูกบ้าง เพราะมันเป็นธรรมชาติของเกมที่มี chance 50/50 ตรงนี้ก็อย่าใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง    และเมื่อถึงจุดที่ท่าน saterndeath ตกผลึกอย่างจริงจัง และเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว  คะแนนคำตอบ ที่ท่านเคยตอบได้ 9 คะแนน ก็จะกลายเป็น 10 คะแนนเต็มทั้ง 2 ข้อครับ

ขอขอบคุณท่านติงลี่ ท่านเนตรทิพย์ น้าบาวินและทุกๆท่านนะครับที่ มาแชร์ความรู้ให้กับผมและท่านอื่นๆได้ศึกษา ซึ่งผมว่าทุกๆโพสมีความหมายอย่างมากในการที่จะ
เป็นหนทางเพื่อจะพาเราไปสู่การชนะเกมส์บาคาร่าได้ครับ
ถึงท่านติงลี่เรื่องคำตอบที่ผมด้ตอบคำถามของท่าน กว่าผมจะได้คะแนนเป็น 10 คะแนนเต็ม
ผมคงต้องรบกวนให้ท่านแนะนำอีกมากพอดูเลยครับ
ต้องขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับทุกท่าน

[Twinwin]

ผมอ่านแล้ว อยากจะขอเสริม ในการเล่นบาคาร่าสไตล์การลงทุนในตลาดหุ้น

>>การซื้อหุ้นในราคาเฉลี่ย เพื่อหนีปัญหาราคาผันผวนของหุ้น นักลงทุนบางคนจะใช้วิธีทยอยซื้อเก็บทุกๆ เดือน โดยไม่สนใจราคาในขณะนั้นว่าสูงหรือต่ำ พอสิ้นปีจะได้ราคาหุ้นเป็นราคาเฉลี่ยทันที

>>การเล่นบาคาร่าแบบมีเงื่อนไข ใช้หลักการคล้ายกับการเล่นหุ้นสไตล์นี้เลย เช่นหุ้นตัวหนึ่งเราซื้อมาราคา 10 บาท/หุ้น เราตั้งเป้ากำไร/ขาดทุนไว้ +/-20% ถ้ามันลงไป 8 บาทถึงจุดนี้ก็ต้องขายทิ้ง (cut loss) แต่ถ้ามันขึ้นไป 12 บาทเราก็ขายทำกำไร

>> แต่ถ้าเล่นสไตล์ลงทุนโดยอิงกับข้อมูลธุรกิจ ก็จะใช้อีกเงื่อนไขหนึ่ง เช่น หุ้นราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะมีข่าวดีแต่ว่าไม่ขาย จะขายก็ต่อเมื่อมันสูงเวอร์ๆ เกินความเป็นจริงหรือมองเห็นหุ้นตัวอื่นให้ผลตอบแทนดีกว่า ซึ่งนักลงทุนต้องรู้ว่า ราคาโอเวอร์ควรจะเป็นกี่บาท เพราะเวลามันลงมักจะหนักหน่วงพอๆ กัน ส่วนเวลามันลงก็ต้องดูปัจจัยทางธุรกิจประกอบ ไม่จำเป็นต้องรีบขายทุกครั้ง  ...

>>แทงบาคาร่าด้วยเงื่อนไข เพื่อหนีเรื่องการรอคอยจังหวะหรือโอกาส อาจจะตั้งเงื่อนไขขึ้นมา เช่น แทงเฉพาะ 15-20 เปิดแรกด้วยหลักการหนึ่งๆ หรือแทงทุกๆ 2 เปิด หรือทุกๆ 3 เปิด เพื่อให้ถึงเป้าแล้วหยุด ขณะเดียวกันถ้าติดลบ เช่น หลักการของผมคิดขึ้น จากการทดลองกับขอนไพ่ 500 ขอน พบว่ามีเปอร์เซ็นต์ tolerance +/-4 หน่วย ดังนั้นเวลาเล่นจริงๆ ถ้าผล -4 หน่วยจะหยุดทันที (cut loss) ไปเริ่มขอนใหม่ หรือถ้า +4 หน่วย หรือใกล้เคียงก็หยุดทันทีแม้ว่าภาพรวมจะขาดทุนก็ตาม เพราะผลกำไร/ขาดทุนมันวิ่งเข้าใกล้ค่าเฉลี่ยของขอนไพ่แล้ว ซึ่งการเล่นแบบนี้ต้องมองในระยะยาว..นี่เป็นวิธีเล่นแบบมีเงื่อนไข ในแบบที่ผมเข้าใจ

สงสัยนิดนึงครับว่าถ้าเล่นแล้ว+4หน่วยควรหยุดอันนี้เข้าใจเพราะถ้าเล่นต่ออาจกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยคือ0หรือติดลบ4
แต่ถ้าเล่นแล้ว-4ผมว่าควรลุยต่อหรือเปล่าเพื่อให้มันกลับมาอยู่ในค่าเฉลี่ยหรืออาจพลิกกลับไปบวก

[saterndeathh]

ผมอ่านแล้ว อยากจะขอเสริม ในการเล่นบาคาร่าสไตล์การลงทุนในตลาดหุ้น

>>การซื้อหุ้นในราคาเฉลี่ย เพื่อหนีปัญหาราคาผันผวนของหุ้น นักลงทุนบางคนจะใช้วิธีทยอยซื้อเก็บทุกๆ เดือน โดยไม่สนใจราคาในขณะนั้นว่าสูงหรือต่ำ พอสิ้นปีจะได้ราคาหุ้นเป็นราคาเฉลี่ยทันที

>>การเล่นบาคาร่าแบบมีเงื่อนไข ใช้หลักการคล้ายกับการเล่นหุ้นสไตล์นี้เลย เช่นหุ้นตัวหนึ่งเราซื้อมาราคา 10 บาท/หุ้น เราตั้งเป้ากำไร/ขาดทุนไว้ +/-20% ถ้ามันลงไป 8 บาทถึงจุดนี้ก็ต้องขายทิ้ง (cut loss) แต่ถ้ามันขึ้นไป 12 บาทเราก็ขายทำกำไร

>> แต่ถ้าเล่นสไตล์ลงทุนโดยอิงกับข้อมูลธุรกิจ ก็จะใช้อีกเงื่อนไขหนึ่ง เช่น หุ้นราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะมีข่าวดีแต่ว่าไม่ขาย จะขายก็ต่อเมื่อมันสูงเวอร์ๆ เกินความเป็นจริงหรือมองเห็นหุ้นตัวอื่นให้ผลตอบแทนดีกว่า ซึ่งนักลงทุนต้องรู้ว่า ราคาโอเวอร์ควรจะเป็นกี่บาท เพราะเวลามันลงมักจะหนักหน่วงพอๆ กัน ส่วนเวลามันลงก็ต้องดูปัจจัยทางธุรกิจประกอบ ไม่จำเป็นต้องรีบขายทุกครั้ง  ...

>>แทงบาคาร่าด้วยเงื่อนไข เพื่อหนีเรื่องการรอคอยจังหวะหรือโอกาส อาจจะตั้งเงื่อนไขขึ้นมา เช่น แทงเฉพาะ 15-20 เปิดแรกด้วยหลักการหนึ่งๆ หรือแทงทุกๆ 2 เปิด หรือทุกๆ 3 เปิด เพื่อให้ถึงเป้าแล้วหยุด ขณะเดียวกันถ้าติดลบ เช่น หลักการของผมคิดขึ้น จากการทดลองกับขอนไพ่ 500 ขอน พบว่ามีเปอร์เซ็นต์ tolerance +/-4 หน่วย ดังนั้นเวลาเล่นจริงๆ ถ้าผล -4 หน่วยจะหยุดทันที (cut loss) ไปเริ่มขอนใหม่ หรือถ้า +4 หน่วย หรือใกล้เคียงก็หยุดทันทีแม้ว่าภาพรวมจะขาดทุนก็ตาม เพราะผลกำไร/ขาดทุนมันวิ่งเข้าใกล้ค่าเฉลี่ยของขอนไพ่แล้ว ซึ่งการเล่นแบบนี้ต้องมองในระยะยาว..นี่เป็นวิธีเล่นแบบมีเงื่อนไข ในแบบที่ผมเข้าใจ

สงสัยนิดนึงครับว่าถ้าเล่นแล้ว+4หน่วยควรหยุดอันนี้เข้าใจเพราะถ้าเล่นต่ออาจกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยคือ0หรือติดลบ4
แต่ถ้าเล่นแล้ว-4ผมว่าควรลุยต่อหรือเปล่าเพื่อให้มันกลับมาอยู่ในค่าเฉลี่ยหรืออาจพลิกกลับไปบวก

ผมว่าถ้าสมมุติตอนเราเล่นเกิดติดลบเกินที่เราตั้ง cut loss ไปแล้ว การใช้ทุนตามลุยต่ออย่างที่ท่านบอก จะเป็นการใช้ทุนสูงขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็คือ ความเสี่ยงจะมากไปด้วย
และไพ่บางขอน อาจจะไม่แมตช์กับสูตรที่เราใช้ ซึ่งอาจทำให้ค่า - เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ดังนั้น การ cut loss หรือ stop loss เพื่อไปเริ่มเล่นขอนใหม่ จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นการลดความเสี่ยงนั่นเองครับ

แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้สูงอันนี้ต้องแล้วแต่เทคนิคของแต่ละท่านแล้วล่ะครับ

ปล.สำหรับผมแล้ว การ cut loss เป็นการช่วยลดความหน้ามืดที่จะตามทุนคืนได้ระดับหนึ่งเลยครับ     ;D

[เนตรทิพย์]

วันนี้ลองสูตรใหม่
เห็นท่านหมูสนามโพส กำลังสนใจอยู่พอดี ศึกษา ลองทำดู ลองบันทึกรูปแบบอื่น
บันทึกเครื่องหมายใหม่เพื่อให้ดูง่ายขึ้น



สรุปเกือบแย่เหมือนกัน ต้องตามซ่อมตามแก้ (โดยใช้เค้าไพ่ช่วย) สุดท้าย บวก 2 พันกว่า....

ผมคงไม่เล่นแบบนีอีกแล้ว เสี่ยงเกินไป  แต่ก็ดีถือว่าได้ การจดบันทึกเพิ่ม อีกหนึ่งแบบ

วงจรไพ่ นี้มันเป็นอย่างไร search หาทางเนท  ข้อมูลมีให้อ่านแบบฟรีๆ มีไม่มากนัก จะเจอแน่ ต้องโทร... มันเป็นความลับกันหมดเลย

ใครมีวิชาการนี้ เล่าสู่กันฟังบ้างคงจะดี

ขอบคุณล่วงหน้า

[saterndeathh]

ผมก็หาเรื่องนี้อ่านเหมือนกันครับ แต่ส่วนใหญ่หลังไมค์ทั้งนั้นเลย
มาได้ท่านเนตรทิพย์ ทำรูปภาพอธิบาย การจดสกอร์ ทำให้พอจะจดสกอร์ได้ง่ายขึ้นครับ
แต่เรื่องการพริ้วไหวเนี่ย ยังไม่กระจ่างสักที
ถ้าจะให้เป็นคงต้องฝึกอีกนานเลย

[ติงลี่]

ผมอ่านแล้ว อยากจะขอเสริม ในการเล่นบาคาร่าสไตล์การลงทุนในตลาดหุ้น

>>การซื้อหุ้นในราคาเฉลี่ย เพื่อหนีปัญหาราคาผันผวนของหุ้น นักลงทุนบางคนจะใช้วิธีทยอยซื้อเก็บทุกๆ เดือน โดยไม่สนใจราคาในขณะนั้นว่าสูงหรือต่ำ พอสิ้นปีจะได้ราคาหุ้นเป็นราคาเฉลี่ยทันที

>>การเล่นบาคาร่าแบบมีเงื่อนไข ใช้หลักการคล้ายกับการเล่นหุ้นสไตล์นี้เลย เช่นหุ้นตัวหนึ่งเราซื้อมาราคา 10 บาท/หุ้น เราตั้งเป้ากำไร/ขาดทุนไว้ +/-20% ถ้ามันลงไป 8 บาทถึงจุดนี้ก็ต้องขายทิ้ง (cut loss) แต่ถ้ามันขึ้นไป 12 บาทเราก็ขายทำกำไร

>> แต่ถ้าเล่นสไตล์ลงทุนโดยอิงกับข้อมูลธุรกิจ ก็จะใช้อีกเงื่อนไขหนึ่ง เช่น หุ้นราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น เพราะมีข่าวดีแต่ว่าไม่ขาย จะขายก็ต่อเมื่อมันสูงเวอร์ๆ เกินความเป็นจริงหรือมองเห็นหุ้นตัวอื่นให้ผลตอบแทนดีกว่า ซึ่งนักลงทุนต้องรู้ว่า ราคาโอเวอร์ควรจะเป็นกี่บาท เพราะเวลามันลงมักจะหนักหน่วงพอๆ กัน ส่วนเวลามันลงก็ต้องดูปัจจัยทางธุรกิจประกอบ ไม่จำเป็นต้องรีบขายทุกครั้ง  ...

>>แทงบาคาร่าด้วยเงื่อนไข เพื่อหนีเรื่องการรอคอยจังหวะหรือโอกาส อาจจะตั้งเงื่อนไขขึ้นมา เช่น แทงเฉพาะ 15-20 เปิดแรกด้วยหลักการหนึ่งๆ หรือแทงทุกๆ 2 เปิด หรือทุกๆ 3 เปิด เพื่อให้ถึงเป้าแล้วหยุด ขณะเดียวกันถ้าติดลบ เช่น หลักการของผมคิดขึ้น จากการทดลองกับขอนไพ่ 500 ขอน พบว่ามีเปอร์เซ็นต์ tolerance +/-4 หน่วย ดังนั้นเวลาเล่นจริงๆ ถ้าผล -4 หน่วยจะหยุดทันที (cut loss) ไปเริ่มขอนใหม่ หรือถ้า +4 หน่วย หรือใกล้เคียงก็หยุดทันทีแม้ว่าภาพรวมจะขาดทุนก็ตาม เพราะผลกำไร/ขาดทุนมันวิ่งเข้าใกล้ค่าเฉลี่ยของขอนไพ่แล้ว ซึ่งการเล่นแบบนี้ต้องมองในระยะยาว..นี่เป็นวิธีเล่นแบบมีเงื่อนไข ในแบบที่ผมเข้าใจ

สงสัยนิดนึงครับว่าถ้าเล่นแล้ว+4หน่วยควรหยุดอันนี้เข้าใจเพราะถ้าเล่นต่ออาจกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยคือ0หรือติดลบ4
แต่ถ้าเล่นแล้ว-4ผมว่าควรลุยต่อหรือเปล่าเพื่อให้มันกลับมาอยู่ในค่าเฉลี่ยหรืออาจพลิกกลับไปบวก

ผมจะ guide หลักการเล่น cut lose กับบาคาร่าให้นะครับ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันได้

การวางเงินจะวางได้ที่ 1%- 2% ของทุน   เช่นท่านจะวาง 100 อย่างน้อยต้องมีทุน 5,000 - 10,000 บาท

จะเล่นโดยวางเท่ากันตลอดในทุกเงื่อนไขของสูตรนั้นๆ ที่สั่ง  เมื่อไหร่ที่ติดลบ -4 หน่วยจะต้องหยุดเล่นในขอนนั้นทันที และหาขอนใหม่เล่นต่อไป

ถ้าขอนไหนที่ยังไม่ถึง -4 หน่วย ก็ run วางเงินไปเรื่อยๆ จนใกล้จะจบขอน  หรือถ้ายังไม่ใกล้จบแต่ท่านคิดว่าได้จำนวนหน่วยสูงแล้ว ท่านอาจจะหยุดก็ได้ เช่น +8 - +15 หน่วย ก็ให้หยุดเล่นก็ได้ เพราะบางครั้งท้ายขอนอาจจะลดลง

การเล่นแบบ cut lose นี้จะมีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา ดังนั้นต้องควบคุมอารมณ์ให้ดี อย่าไปตื่นตกใจ และวางเงินเพิ่มเพื่อแก้ไขคืนที่เสีย -4 หน่วย

นอกจากนี้แล้ว การเล่นแบบ cut lose จะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของ system (มาจากการตรวจสอบค่าเฉลี่ย)  และขึ้นอยู่กับโชคของท่านด้วยว่าท่านเลือกขอนได้ขอนถูกเยอะ หรือมีผิดต่อกันหลายๆ ขอน ดังนั้นต้องระมัดระวังด้วยนะครับ อย่าใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งในการเล่น 

เช่น ถ้าวันใดวันนึงท่านเลือกขอนเล่นแล้วโชคค่อนข้างดีอาจจะมีลักษณะอย่างนี้   +10  -4  +19 +3 -4  จะเห็นได้ว่าขอนแรก +10 หน่วย / ขอนที่ 2 cut lose ที่ -4 /   ขอนที่ 3  +19 / ขอนที่ 4  +3 /  ขอนที่ 5  cut lose ที่ -4


และในบางวันท่านก็อาจจะเกิดลักษณะนี้ก็ได้  -4  -4  0  1  -4  -4    จะเห็นได้ว่า ขอนที่ 1  2  5  และ6  ต้อง cut lose ที่ -4 (ตามวิธีการ)   ทั้ง 4 ขอน   แสดงว่าวันนี้นั้นต้องระวังหน่อย หรือช่วงที่ท่านเล่นนี้้ระวังหน่อย เพราะเงื่อนไขไม่ค่อยเหมาะสมกับไพ่เท่าที่ควร

ดังนั้นควรบริหารเงินให้ดีนะครับ แบ่งกำไรที่ได้เก็บไว้บางส่วนก่อนเช่น 30 - 50%   เพื่อที่จะสำรองไว้ในกรณีที่การเล่นแบบค่าเฉลี่ยทำให้เงินทุนเดิมลดลงมา   หรือจะเล่นหลายวันไปก่อน แล้วค่อยถอนเงินออกมาก็ได้ในกรณีเล่น online

จริงๆ แล้วนอกจากวิธีการ cut lose ผมยังไม่วิธีการอื่นๆ ในการแก้ไขปัญหากรณีฉุกเฉินอีกครับ แต่เพียงบอกให้รู้กันเฉยๆ ไม่แนะนำให้ใช้วิธีแก้ไขกรณีฉุกเฉิน แนะนำให้ใช้วิธี cut lose อย่างเดียวไปเรื่อยๆ จะดีกว่า   

และบอกตามความเป็นจริงครับ cut lose สามารถที่จะขึ้นจะลงบ้าง  แต่ไม่เคยถอยหลังกลับ(ต้องขึ้นอยู่กับการประเมินประสิทธิภาพของ system ในตอนแรกด้วยนะครับ)

[ติงลี่]

คงค้างเรื่องเลขฐานเพียงเรื่องเดียวกับท่านเนตรทิพย์นะครับในตอนนี้

[กระสุนปืนใหญ่]

การ cut loss ง่ายๆ คือ สมมติ นาย ก. ฝากไป 10000.- ปรากฎว่าแทงผิดขาดทุน 10% แล้วเขาตัดสินใจ cut loss เขาจะเหลือทุน 9000 และเขานำเงินจำนวนนี้ไปลงเดินพันต่อ ซึ่งต้องทำกำไรให้ได้ 11.11% ก็จะเป็นยอด 9999 บาท ซึ่งดูแล้วไม่ยากใช่ไหม

ลองมาดูอีกตัวอย่าง ถ้า นาย ข. ฝากไป 10000.- ปรากฎว่าแทงผิดขาดทุน 10% ตามระบบที่กำหนดจะต้อง cut loss แต่เขาเชื่อมั่นว่าไพ่มันต้องมาแน่ๆ เลยแทงต่อในขอนเดิม ปรากฎว่าผ่านไปไม่กี่เกมขาดทุน 50% แล้วจึงหยุด เหลือเงิน 5000 ทีนี้จะตามทุนคืนได้ต้องทำกำไรถึง 100% โอ้ววส์แม่ประไพ 100% เชียวนะเทอ!!

"การตั้งเป้าใครๆ ก็มีสิทธิ์คิดได้ แต่มันจะมาตามเป้าหรือเปล่าเป็นอีกเรื่อง"

มาดูลักษณะการซื้อขายหุ้นสไตล์

..case 1 ผมเข้าแทงผิดจังหวะ แต่ดันคิดไปเองว่ามันน่าจะมาแน่ๆ จึงเสียไป 1000

case 2 ผ่านไประยะนึง เริ่มรู้ว่าหลงทางแล้ว ผมจึงยอมเสียแค่ 1000 ได้เงินต้นกลับมา 9000 ขาดทุนไป 1000 แต่บังเอิญคนข้างๆ มันคิดว่าไพ่ขอนนี้มังกร ปิงปองกำลังมาแน่ๆ

case 3 ผมย้ายไปเล่นขอนอื่น ด้วยเงิน 9000 โดยเข้าไปแทงได้มา 500 ใจก็ชื้นมา ผมเริ่มเห็นว่ามังกรมาแน่ ก็อัดไปอีก ก็ได้มาอีก 500 ขณะคนข้างๆ มันยังเล่นขอนเดิม ได้กลับมาบ้าง ใจชื้นขึ้นมา

case 4 ผมได้ทุนคืนแล้ว คนข้างๆ ยังอยู่ขอนเดิม โดนเค้าหลอกหัวทิ่มซ้ำอีก กลับไปขาดทุนเหมือนเดิม ส่วนผมมองเห็นว่าเค้าไพ่เริ่มนิ่งแล้วก็แทงต่อได้กำไรมา 1000 จึงหยุด แต่คนข้างๆ ถือคติว่า ติดลบแค่นี้ไม่เป็นไร เค้าไพ่ต้องมาแน่ ผมหยุดรอถอนเงินแล้ว แต่คนข้างๆ กู่ไม่กลับเลย เพราะหน้ามืดแทงหนักขึ้นเรื่อยๆ

นี่แหละครับ นักพนันแนว "ยอมหักไม่ยอมงอ" "ไม่ยอมถอย เมื่อรู้ว่าผิด" จึงโดนสภาพของขอนไพ่นั้นบังคับให้เล่นต่อ เพราะมีความหวังว่า บ่อนกินแล้วมันต้องให้เรากินคืนบ้าง.. บ่อนมันไม่ได้ใจดี 24 ชั่วโมงนะครับ..อิอิ

นาย ก. = พี่..ตอนนี้ไพ่โต๊ะ A กำลังแดรกก ไม่มารอมันแจกคืนเหรอ

นาย ข. = ไม่! จากนี้ไปกรูจะ Cut loss อย่างเดียวว!!

 
 :)) :))

[saterndeathh]

การ cut loss ง่ายๆ คือ สมมติ นาย ก. ฝากไป 10000.- ปรากฎว่าแทงผิดขาดทุน 10% แล้วเขาตัดสินใจ cut loss เขาจะเหลือทุน 9000 และเขานำเงินจำนวนนี้ไปลงเดินพันต่อ ซึ่งต้องทำกำไรให้ได้ 11.11% ก็จะเป็นยอด 9999 บาท ซึ่งดูแล้วไม่ยากใช่ไหม

นาย ก. = พี่..ตอนนี้ไพ่โต๊ะ A กำลังแดรกก ไม่มารอมันแจกคืนเหรอ

นาย ข. = ไม่! จากนี้ไปกรูจะ Cut loss อย่างเดียวว!!

 
 :)) :))

เห็นภาพเลยครับท่าน  :)

[ติงลี่]

เรื่องนาย ก.  นาย ข.  ถ้ามีนิ้วโป้ง 10 นิ้ว ผมก็ให้ทั้งหมดเลยแล้วกันนะครับ  ฮาจริงๆ


เข้า issue อื่นต่อนิดหน่อยนะครับ  ขอคั่นก่อนที่จะเข้าเรื่อง base number

วิธีการเล่นของผมมีด้วยกันอยู่ 2 แบบ  แบบแรกก็ตามที่เขียนบอกท่านๆ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

เอาเป็นว่าผมจะเขียนแบบที่ 2 ต่อไปเลยแล้วกัน   

เมื่อท่านๆ เริ่มรู้แล้วว่า system หรือ method หรือบ้านเราเรียกว่าสูตรนั้น   ท่านรู้เริ่มรู้ดีว่า ถ้าเดินเงิน 1 หน่วยไปตลอด ไม่ว่าจะกี่พัน กี่หมื่น กี่แสนขอนก็ตาม ค่าเฉลี่ยมันก็วิ่งต่ำกว่า 0 หรือ เกิน 0 ไม่ค่อยมากเท่าไหร่

เอาเป็นว่าผมตีให้ 1 หน่วยต่อขอนแล้วกัน    และผมก็เป็นคนที่ไม่ค่อยโลภซักเท่าไหร่  ไอ้ที่อยากได้หลายๆ units ต่อขอนบางครั้งก็ไม่จำเป็นสำหรับผม ถ้าผมจะเล่นตามวิธีการแบบที่ 2 นี้

ก็คือ ขอนไหน ผมได้ 1 หน่วย ผมก็จะหยุดเล่นทันที ไม่ว่าขอนนั้นมันจะไปสูงสุดเท่าไหร่ หรือลบสูงสุดที่เท่าไหร่   และถ้าผมเล่นแบบนี้ วันนึงผมจะต้องทำเป้าหมายให้ได้ 7 หน่วยต่อวัน หรือ 5 หน่วยต่อวันเป็นอย่างต่ำ วันไหนไม่ค่อย work

1 หน่วยก็ยังดีครับ ก็ถือว่า กำไรแล้ว

แล้วถ้าการเล่นแบบที่ 2 นี้ ผมไปเจอขอนที่ติดลบหล่ะ ผมจะทำอย่างไร  ตอบนะครับ เมื่อไหร่ที่ -3 หน่วย  ผมจะมีวิธีการแก้ไข โดยวิธีการส่วนตัวของผมเอง จะช่วยให้ในขอนนั้นที่เห็นว่าติดลบ -3 เมื่อไหร่ ก็ดึงขึ้นมาใช้ อาจจะพอช่วยบรรเทาการติดลบ -3 ลงไปได้บ้าง หรือแก้ไขได้เรียบร้อย รวมทั้งบางครั้งมีกำไร  ตรงนี้ก็เป็นวิธีการส่วนตัวครับ 

ดังนั้นวิธีการนี้จะไม่เหมือนกับการเล่นค่าเฉลี่ย  การเล่นค่าเฉลี่ยจะ cut lose ที่ -4 (ยังจำกันได้นะครับ)

แต่วิธีการที่สองขอผมนี้ เมื่อเห็น -3 หน่วยเมื่อไหร่ จะมีวิธีการแก้ไขเข้ามาครับ

ดังนั้นสรุปว่า แนวทางการเล่นของผมนั้น จะมีการเล่นทั้งแบบค่าเฉลี่ย  และแบบทำกำไร 1 หน่วยต่อขอน

เจ้าแบบทำกำไร 1 หน่วยต่อขอนนี้ บางท่านบอกทำไมมันน้อยจัง ทำไมไม่เอาเยอะๆ ผมก็ต้องบอกว่า ผมเป็นคนไม่ค่อยโลภครับ  ไปแบบเต่าๆ ดีกว่า

[ติงลี่]

"ธรรมชาติของคน ต้องการเอาชนะธรรมชาติ แต่ถ้าคนไม่รู้จักธรรมชาติดีพอ ธรรมชาติก็จะกลับมาทำร้ายคน"

[DIALY]

"ธรรมชาติของคน ต้องการเอาชนะธรรมชาติ แต่ถ้าคนไม่รู้จักธรรมชาติดีพอ ธรรมชาติก็จะกลับมาทำร้ายคน"

8) 8)

[saterndeathh]

ตอนนี้ผมรอติดตามเรื่องเลขฐานของท่านติงลี่อยู่นะครับ

[ba-win]

วันนี้ลองสูตรใหม่
เห็นท่านหมูสนามโพส กำลังสนใจอยู่พอดี ศึกษา ลองทำดู ลองบันทึกรูปแบบอื่น
บันทึกเครื่องหมายใหม่เพื่อให้ดูง่ายขึ้น



สรุปเกือบแย่เหมือนกัน ต้องตามซ่อมตามแก้ (โดยใช้เค้าไพ่ช่วย) สุดท้าย บวก 2 พันกว่า....

ผมคงไม่เล่นแบบนีอีกแล้ว เสี่ยงเกินไป  แต่ก็ดีถือว่าได้ การจดบันทึกเพิ่ม อีกหนึ่งแบบ

วงจรไพ่ นี้มันเป็นอย่างไร search หาทางเนท  ข้อมูลมีให้อ่านแบบฟรีๆ มีไม่มากนัก จะเจอแน่ ต้องโทร... มันเป็นความลับกันหมดเลย

ใครมีวิชาการนี้ เล่าสู่กันฟังบ้างคงจะดี

ขอบคุณล่วงหน้า

สำหรับรูปแบบสองแถว ที่เป็น คู่-คี่ หรือ 2+2 3+1 ทำทดลองมาหมดแล้วจึงไม่อยากเอามานำเสนอ เพราะจุดอ่อนเยอะ และหาแนวทางแก้ไขได้อยาก จึงตัดทิ้งออกไปเลยและไม่อยากเอามาแนะนำ ส่วน คนที่นำมาให้สมาชิกดูนั้น คือการเลือกจากสกอร์ของไพ่ที่ออกมาแล้วเอามาโชว์ และถ้าเอาไปใช้เล่นสดๆ นั้นแพ้ง่ายเพราะรูปแบบมักเปลี่ยนบ่อยๆจนยากที่จะเลือก ว่าจะเป็น คู่-คี่ หรือ2+2 3+1 แต่รูปแบบที่ผมนำเสนอเป็นเหมือน หรือต่างนั้น
เพื่อให้ผู้เล่น จดจำว่าเหมือน หรือต่างๆ นั้นที่ถูกติดต่อกันหลายๆเกม เป็นแบบไหนของรูปแบบไพ่ในแบบการจัดสากล บิ๊กโร๊ด ผมว่าทุกคนที่นำเสนอล้วนเป็นไปในแนวเดียวกันและวิธีการให้ไปถึงจุดหมายนั้น จะยาวหรือสั้น ที่สามารถสอนคนเล่นที่ไม่ได้ศึกษามา อาศัยแต่ดวง วัดผลกำไร-ขาดทุนอย่างเดียว และมักพูดปลอบใจตนเองเสมอว่า ไม่มีใครเก่งสำหรับบาคาร่า กลัวคนอื่นจะว่าเอา  ผลสุดท้ายเงินหมดเป็นหนี้สิน ก็กลับมาหาวิธี ไปเล่นกับมัน
ขอให้ทุกคนนำเสนอให้สมาชิกได้อ่านได้รู้บ้าง ล้วนเป็นประโยชน์ทั้งนั้น ขึ้นกับสมาชิกจะใช้วิจารณญานของตนเองในการตัดสินใจ  ส่วนผมก็ใกล้จะถึงเวลาแล้วที่จะเผยแพร่ให้เห็น ในทุกเทคนิค กลยุทธ และวิธีการ ที่เคยนำเสนอไปแล้วเพียงแต่ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดให้ทุกคนเข้าใจโดยง่ายเพราะคนเล่นมีหลายระดับจริงๆ จากประสบการณ์ที่แนะนำและสอน ทั้งที่เขียนให้อ่านเหมือนกัน แต่รับไปได้ช้าเร็วไม่เหมือนกัน จึงต้องหาแนวทางไปที่ละขั้นๆ  ครับต่อไปผมคงไม่ได้มาเขียน หรือนำเสนอแล้ว เพราะเดือนต่อไปคืองานหนักสำหรับผม ที่จะทำโชว์ให้เห็น ซึ่งคงต้องลงทุนอีกหลายอย่างเพราะอุปกรณ์ที่ผมมีอยู่คือคอมเก่ามากและเป็นคนที่ไม่เคยเรียนคอมมาเลย จึงต้องมาฝึกฝน ไปทีละขั้น นานพอดู กว่าจะรู้จริง ตอนนี้ต้องมาศึกษาโปรแกรมต่างที่สามารถนำเสนอหรือสอนสดๆให้สมาชิกได้เรียนรู้เหมือนอยู่ในสภาพจริงๆเป็นอย่างไร ขอให้ทุกท่า่นโชคดี เหนื่อยครับ สอนคนไม่รู้และเสียเงินจนเดือดร้อนทั้งนั้น จะทำให้ได้มาตั้งใจแต่ใช้เวลานานไปหน่อยคือย่างเข้าปีที่ 18
*** สัจจธรรม คนเล่นการพนัน ไม่มีรวย ถ้าไม่เล่นโกง และการพนันก็เป็นหนทางแห่งความเสื่อมและความฉิบหาย***
      ขอให้โชคดี กันถ้วนหน้าทุกคน ขอเป็นกำลังใจให้

[saterndeathh]

สำหรับรูปแบบสองแถว ที่เป็น คู่-คี่ หรือ 2+2 3+1 ทำทดลองมาหมดแล้วจึงไม่อยากเอามานำเสนอ เพราะจุดอ่อนเยอะ และหาแนวทางแก้ไขได้อยาก จึงตัดทิ้งออกไปเลยและไม่อยากเอามาแนะนำ ส่วน คนที่นำมาให้สมาชิกดูนั้น คือการเลือกจากสกอร์ของไพ่ที่ออกมาแล้วเอามาโชว์ และถ้าเอาไปใช้เล่นสดๆ นั้นแพ้ง่ายเพราะรูปแบบมักเปลี่ยนบ่อยๆจนยากที่จะเลือก ว่าจะเป็น คู่-คี่ หรือ2+2 3+1 แต่รูปแบบที่ผมนำเสนอเป็นเหมือน หรือต่างนั้น
เพื่อให้ผู้เล่น จดจำว่าเหมือน หรือต่างๆ นั้นที่ถูกติดต่อกันหลายๆเกม เป็นแบบไหนของรูปแบบไพ่ในแบบการจัดสากล บิ๊กโร๊ด ผมว่าทุกคนที่นำเสนอล้วนเป็นไปในแนวเดียวกันและวิธีการให้ไปถึงจุดหมายนั้น จะยาวหรือสั้น ที่สามารถสอนคนเล่นที่ไม่ได้ศึกษามา อาศัยแต่ดวง วัดผลกำไร-ขาดทุนอย่างเดียว และมักพูดปลอบใจตนเองเสมอว่า ไม่มีใครเก่งสำหรับบาคาร่า กลัวคนอื่นจะว่าเอา  ผลสุดท้ายเงินหมดเป็นหนี้สิน ก็กลับมาหาวิธี ไปเล่นกับมัน
ขอให้ทุกคนนำเสนอให้สมาชิกได้อ่านได้รู้บ้าง ล้วนเป็นประโยชน์ทั้งนั้น ขึ้นกับสมาชิกจะใช้วิจารณญานของตนเองในการตัดสินใจ  ส่วนผมก็ใกล้จะถึงเวลาแล้วที่จะเผยแพร่ให้เห็น ในทุกเทคนิค กลยุทธ และวิธีการ ที่เคยนำเสนอไปแล้วเพียงแต่ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดให้ทุกคนเข้าใจโดยง่ายเพราะคนเล่นมีหลายระดับจริงๆ จากประสบการณ์ที่แนะนำและสอน ทั้งที่เขียนให้อ่านเหมือนกัน แต่รับไปได้ช้าเร็วไม่เหมือนกัน จึงต้องหาแนวทางไปที่ละขั้นๆ  ครับต่อไปผมคงไม่ได้มาเขียน หรือนำเสนอแล้ว เพราะเดือนต่อไปคืองานหนักสำหรับผม ที่จะทำโชว์ให้เห็น ซึ่งคงต้องลงทุนอีกหลายอย่างเพราะอุปกรณ์ที่ผมมีอยู่คือคอมเก่ามากและเป็นคนที่ไม่เคยเรียนคอมมาเลย จึงต้องมาฝึกฝน ไปทีละขั้น นานพอดู กว่าจะรู้จริง ตอนนี้ต้องมาศึกษาโปรแกรมต่างที่สามารถนำเสนอหรือสอนสดๆให้สมาชิกได้เรียนรู้เหมือนอยู่ในสภาพจริงๆเป็นอย่างไร ขอให้ทุกท่า่นโชคดี เหนื่อยครับ สอนคนไม่รู้และเสียเงินจนเดือดร้อนทั้งนั้น จะทำให้ได้มาตั้งใจแต่ใช้เวลานานไปหน่อยคือย่างเข้าปีที่ 18
*** สัจจธรรม คนเล่นการพนัน ไม่มีรวย ถ้าไม่เล่นโกง และการพนันก็เป็นหนทางแห่งความเสื่อมและความฉิบหาย***
      ขอให้โชคดี กันถ้วนหน้าทุกคน ขอเป็นกำลังใจให้

ขอบคุณครับน้าบาวิน

[ติงลี่]

"ความสามารถทำกำไรในระยะยาว ในเกม 50/50  สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การควบคุมใจตัวเอง"

[ติงลี่]

ความคิด ณ ขณะที่อยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน ต้องรีบไปสั่ง จิต และใจ   หยุดคือ ต้องหยุด เบรค คือ ต้องเบรค   อย่าอยู่ในอาการลอยไปตามอารมณ์ นั่นก็คือ การควบคุมจิต และใจ และอารมณ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะประคับประคองให้ท่านๆ สามารถทำกำไรในระยะยาวได้

[ติงลี่]

ที่มา : แหล่งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต

ผู้ค้นพบระบบจำนวนเลขฐานสองคือใคร 

ค.ศ. 1673 : กอตฟริต ฟอน ไลบนิซ (Gottfried von Leibniz : 1646 - 1716) นักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์ ชาวเยอรมัน ออกแบบเครื่องคิดเลขแบบใช้เฟืองทดเพื่อทำการคูณด้วยวิธีการบวกซ้ำ ๆ กัน ไลบนิซเป็นผู้ค้นพบจำนวนเลขฐานสอง (Binary Number) ซึ่งประกอบด้วยเลข 0 และ 1 เป็นระบบเลขที่เหมาะในการคำนวณ เครื่องคิดเลขที่ไลบนิซสร้างขึ้น เรียกว่า Leibniz Wheel สามารถ บวก ลบ คูณ หาร ได้

นักคณิตศาสตร์ชาวอินเดีย ชื่อ Pingala ได้เขียน The Chandaḥśāstra มีเนื้อหาเกี่ยวกับเลขฐานสองเป็นครั้งแรก


เลขฐานสอง (อังกฤษ: binary numeral system) หมายถึง ระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น
ถ้าแปลงค่าเลขฐานสิบ มาเป็นเลขฐานสอง จะได้ดังนี้
0 = 0000
1 = 0001
2 = 0010
3 = 0011
4 = 0100
5 = 0101
6 = 0110
7 = 0111
8 = 1000
9 = 1001
10(A) = 1010
11(B) = 1011
12(C) = 1100
13(D) = 1101
14(E) = 1110
15(F) = 1111
ในปัจจุบันเลขฐานสองเป็นพื้นฐานในการทำงานของคอมพิวเตอร์ โดยนำเอาหลักการของเลขฐานสอง (สถานะไม่มีไฟฟ้า และ สถานะมีไฟฟ้า) มาใช้ในการสร้างไมโครโปรเซสเซอร์ที่มีหน่วยประมวลผลแบบ 32 หรือ 64 บิต หรือมากกว่านั้น ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นการประมวลผลแบบดิจิทัล