บาคาร่าเกมส์พนันอันตราย 5 ตอนฮวงจุ้ยบันดาลโชคร้าย(ตอนจบ)
https://docs.google.com/document/d/13x7gZQ7MF9Kc3gNJOOE5-tYneysPus6qq_NW2TI9PYw/edit?usp=sharing “สนุกสุดๆ ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตเลย มันส์จริงๆ ไม่อยากเลิกเลย”
สองสาวเกิดติดใจจะเล่นไม่เลิกแล้ว
“อีกนิดเดียวก็จะได้เงินคืนทั้งหมดเข้าบัญชีแล้ว”
ปรางพูดก่อน มิวสิคเสริมขึ้นมา
ได้ยินสิ่งที่พวกเธอเผลอพูดออกมา ทำให้ผมต้องสดุด คำนึงขึ้นมาในใจว่า
(นี้พวกเธอเล่นเสียกันมากขนาดไหนกันนะ ขนาดว่าเราคั้งใจจะยกหนี้ที่จ่ายให้หยิบสิบ และทำให้พวกเธอได้เงินกันขนาดนี้ยังไม่พออีก นี้คงไม่ใช่ครั้งแรกที่มาเล่นแล้วมั่ง ที่ปรางติดต่อเอเยนต์มาที่ป๋าครั้งก่อนเป็นเพราะเหตุนี้หรือไม่ และอาจเคยขอความช่วยเหลือคนอื่นที่เขาเคยช่วยมาหลายครั้งแล้ว ยังก่อเรื่องลักษณะเดียวกันซ้ำจนไม่กล้าขอแล้ว จึงได้ขอมาทางป๋า หากเป็นแบบนี้แทนที่เราจะเป็นการช่วย กลับจะเป็นการทำลายทั้งคู่ในอนาคตหรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้เราจะตักเคือนสอนพวกเธอยังไงดี ไม่ให้หลงทางผิดได้)
“ไหนก่อนหน้าว่าเข็ดแล้วขอสาปส่งไม่เล่นแล้วไง”
ทั้งปรางและมิวสิคหน้าจ๋อยลง
ผมไม่อยากพูดอะไรให้กระทบกระทั่ง้เสียน่ำใจทั้ง 2 คน จึงยิ้มแล้วถามใหม่
“วันนี้ได้ลองไปเล่นกับป๋าแล้วรู้สึกว่าเป็นไง ป๋าเก่งไหมละ”
ทั้งคู่ดูค่อยมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้น มิวสิคยกหัวแม่โป้งขึ้นมาทางผม
“ต้องบอกว่าป๋าสุดยอดเลย หนูกับปรางต่างแอบชมป๋าว่า เมื่อกี้เราเหมือนกับอยู่ในหนังเลย”
“ใช่เหมือนป๋าเป๋นพวกโคตรเซียนในหนัง เราไม่คิดว่าจะได้มาสัมผัสของจริง”
ปรางเสริม จนผมอดไม่ได้ต้องหัวเราะออกมา ตามคำชม
“เข้าใจยอกันทั้ง 2 คน แต่ขอพูดตามตรงเลยนะ ไม่ได้ถ่อมตัว ที่เราชนะกันมาได้เป็นเพราะโชคดีมากกว่า”
“คาสิโนอาจเห็นหนูเสียมาหลายวันเลยปล่อย ไม่ได้ออกอาวุธจัดการมาก ปล่อยในที่นี้คือให้เราเล่นแบบแฟร์ หากดวงดีก็ได้ดวงซวยก็เสีย ทีเราเล่นได้มาสักครู่ป่านนี้ข่าวคงกระจายไปทั่วแล้วละ รับรองลงไปเล่นใหม่คราวนี้ ทุกคาสิโนต้องจัดเต็มแล้วละ ต่อให้เก่งอย่างไรก็ไม่รอด”
ทั้งคู่ต่างส่ง้สียง อืม ในลำคอ ผมจึงลองตั้งคำถามเล่นๆ ให้ทั้งคู้ตอบดู
“พวกหนูคิดว่าคนเข้ามาเล่น 100 คน มีคนได้หรือเสียจำนวนเท่าไรให้ทาย”
“หนูว่าน่าจะสัก 10% ที่ได้ อีก 90% คือคนที่เสีย”
ปรางบอก
“แล้วหนูมิวสิคละ คิดว่ายังไง”
มิวสิคอ่านใจป๋า ว่าปรางคงตอบไม่ถูกจึงลดจำนวนลง
“หนูก็คิดคล้ายปรางคะ แค่น่าจะมีคนได้สัก 5% ได้มั่ง แบบเก่งเหมือนป๋า”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่ต้องมายอ“
ผมหัวเราะพร้อมส่ายหน้า “ไม่ถูกทั้งคู่ ประสบการณ์ยังไม่พอ”
“เอ..ถ้าอย่างนั้นมันคือเท่าไรคะ”
“ป๋า เฉลยให้รู้ คนเล่น 100 คน จะมีคนเสียอย่างน้อย 300 คน คนได้แทบไม่มี เพราะพอได้ก็เหมือนแค่เอามานับ แล้วกลับไปเล่นใหม่จนเสียหมด”
”แล้วทำไม คนมาเล่น 100 คน ถึงได้เสียถึง 300 คนละคะป๋า”
“ก็เพราะคนเล่น 1 คน อย่างน้อยก็มีคนที่รู้จัก และขอความช่วยเหลือได้อย่างน้อยก็ 2 คน พอเสียแล้ว บ้างก็แต่งเรื่องโกหกไปขอยืมเงินคนเหล่านั้นมาเล่นแก้มืออีก พอเสียหมดก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินไปคืนเขาได้ที่ไหน ยิ่งเล่นยิ่งเป็นหนี้ เลยทำให้คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ มาให้เงินยืมช่วยเพราะความรักและมีน้ำใจต้องเสียเงินไปด้วย เมื่อได่เงินยืมแล้ว ก็ยังเผลอไผลไปทำอีก ไม่มีเงินคืนเขา ต้องไปหาคนใหม่ยืมอีกจนหนักเข้าไม่รู้จะทำอย่างไร”
พอป๋าพูดเช่นนี้ ทั้งคู่เหมือนหน้าเสีย เจื่อนลง เหมือนที่ป๋าพูดมันโดนตัวเองเข้าให้ ป๋าจึงต้องรีบชี้แจง
“ป๋าไม่มีเจตนาจะว่าหนูหรอกนะ ฟังให้ดีก่อน คนส่วนใหญ่ที่ติดการพนันจะเป็นเหมือนกันหมดรวมทั้งป๋าด้วยคือแพ้ก็ไม่ยอม ชนะก็อยากได้เพิ่ม มันเป็นเหมือนจิตวิทยาที่อยู่ในใจทุกคนที่เป็นเช่นนั้น คนทุกคนถึงรู้ว่าโดนโกง เสียเปรียบ ส่วนใหญ่จะเสียเมื่อมาเล่น แต่จะไม่จดจำในสิ่งที่ตัวเองเสีย จะจดจำแต่ครั้งที่ตัวเองได้ แม้จะเป็น 1 ใน 100 ครั้ง หรือ 1 ใน พันที่ตัวเองได้ จะไม่จำใน 999 ครั้งที่เสีย
เพราะต่างคิดว่าจะต้องมีโอกาส 1 ใน 100 อีกหนที่จะต้องชนะแน่
แต่โอกาสนั้นจะไม่มีมาบ่อย แต่พอได้โอกาสนั้นมา ก็กลับหลงลืมคิดว่าจะมีโอกาสแบบนั้นอีก เป็นครั้งที่ 3 -4 หรือเรื่อยไปไม่สิ้นสุด แต่น่าเสียดายที่โอกาสที่ดีกลับมาแค่ครั้งเดียว ไม่มีโอกาสที่ 3 หรือ 4 ให้เห็น จึงเท่ากับคนนั้นได้เลือกโยนโอกาสดีของตัวเองทิ้งไปแล้ว
เงินที่ชนะได้มาจึงเพีนงแค่เอามานับชื่นชม แล้วก็เสียคืนหมดไป”
“เรียกว่ามีความโลภใช่ไหมป๋า”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้นะ แต่มันหนักกว่าที่มันเหมือนเป็นความมืดและปีศาจที่อยู่ในตัวที่ดึงให้เป็นเช่นนั้น”
“วันนี้เราโชคดีชนะ เรารู้สึกภูมิใจ ตอนเดินออกจากคาสิโนรู้สึกยิ่งใหญ่ แต่ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้อาจแพ้หมดรูป ต้องน้ำตานองหน้า อยากคิดจะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ ซึ่งหนูก็ผ่านมาทั้ง 2 รูปแบบ และเหตุการณ์แพ้มันสามารถพลิกกลับมาอย่างง่ายดาย เพราะคาสิโนก็มีเทคนิคจัดการได้หลายแบบ ที่พร้อมมาเล่นงาน จากกำลังภูมิใจงามสง่าชั่วเวลาประเด๋ยวเปลี่ยนเป็นหนังเศร้าได้ทันที ซึ่งป๋าก็เจอฉากแบบนี้มากับหลายคน เช่น บางคนเล่นชนะขึ้นเงินหมดแล้ว ให้เมียไปเก็บของเตรียมจะกลับ มีคนรู้จักมาขอเงินแค่ 2000 บาท ชนะมาตั้งหลายแสนแทนที่จะควักเงินในตัวให้ไป กลับบอกเดี๋ยวกลับไปแทงให้ เพราะคิดว่าชนะตั้งเป็นแสนยังทำได้ เอาอีกแค่ 2 พัน ทำไมจะไม่ได้ พอแทงลงไป 2000 แพ้ ตาต่อไปเพิ่มเป็น 4 เป็น 8 สุดท้ายเงินกำไรหมด เข้าเนื้อไปอีกจนหมดตัว เมียลงมาบอกหมดตัวแล้วช๋็อคเลย และไม่ใช่อย่างนี่เพียงรายเดียว มีตั้งมากที่เป็นแบบนี้ เหมือนฉายหนังกันคนละม้วนกันเลย เพราะขอเพิ่มอีกหน่อย นี้แหละ เพราะคาสิโนไม่ปล่อยแล้วแทงเท่าไรก็เสีย”
สองสาวตั้งใจฟังนิ่งเงียบ ป๋าจึงพูดต่อ
“ดังนั้นเมื่อเราชนะมาแล้ว ป๋าจึงอยากให้เรามีฉากจบที่สวยงาม ไม่อยากให้มีฉากจบเปลี่ยนเป็นฉากเศร้าเคล้าน้ำตา ไม่ต้องเล่นอีกแล้วละ “
“ขนาดที่พวกหนูเห็นว่าป๋าเก่งขนาดนี้ ป๋ายังได้ข้อสรุปว่า เราไม่สามารถยึดการพนันเป็นอาชีพ ไม่สามารถหาเงินจากการพนันเป็นหลักได้ ที่เห็นป๋ารวยไม่ได้มาจากการพนัน การพนันเสียอีกที่ทำให้ป๋าเกือบหมดตัว แต่หากอยากเล่นก็เป็นครั้งคราวนานๆที แต่ให้รู้ทันว่าตอนที่เล่นสถานการณ์เป็นยังไง คนรอบตัว ทิศทางและอื่น ๆเพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อเท่านั้นแหละ”
“คะ” ทั้งสองรับคำ
“ตอนนี้ป๋ามีเรื่องจะขอได้ไหม”
“อะไรคะ” มิวสิคถาม
“ป๋า จะขอเงินที่หนูมีในตอนนี้ เอาไปฝากไว้ในบัญชีป๋าก่อนแล้วถึง กทม จะคืนให้ ไม่ใช่ไม่ไว้ใจหนูว่าจะแอบไปเล่นนะ แต่เพื่อความปลอดภัยไม่อยากให้ถือเงินออกด่านไปเยอะ ข้างล่างคาสิโนก็มีบริการรับโอนเงินให้ ค่าธรรมเนียมป๋าจ่ายให้เอง ถ้าไม่ได้ก็มีจังเก็ทที่ไว้ใจได้ป๋ารู้จักเขาโอนเงินให้ป๋าได้เลย”
ทั้งคู่หันไปคุยกันตกลงกันพักหนึ่ง ปรางจึงตอบ
“ได้คะป๋า เพราะยังไงเงินทั้งหมดก็เหมือนเป็นเงินของป๋าอยู่แล้ว
ผมจึงจดเงินและบัญชีของทั้ง 2 ไว้ ก่อนแบ่งเงินให้ทั้งคู่มีติดตัวไว้คนละ 20000 ซึ่งก็เยอะอยู่แล้ว
“หนูสงสัยที่คนได้มาตั้งเยอะ แล้วคนมาขอแค่เล็กน้อยทำให้เสียหมดตัว หลายๆคนทำไมถึงควบคุมตัวเองไม่ได้”
“เป็นเพราะมาจากความงก จนหน้ามืด โดนคาสิโนเล่นงานโดยไม่รู้ตัว หรือหากคนเชื่อในไสยศาสตร์ก็จะบอกว่าถูกคลื่นพลังจากหลักฮวงจุ้ยของคาสิโนที่วางไว้ บันดาลให้เกิดโชตร้ายบวกกับคาสิโนใช้เทคนิค ทำให้เสียเงินจนหมด”
“ฮวงจุ้ยบันดาลให้เกิดโชคร้ายมีด้วยหรือป๋า หนูเคยแต่ได้ยินว่าฮวงจุ้ยทำให้โชคดี”
มิวสิคทำท่าตกใจถาม ป๋าจึงอธิบายให้ฟัง
“คาสิโนทุกแห่งที่ก่อสร้าง เขาไม้ได้ออกแบบเพื่อความสวยงามเท่านั้น เขายังเสียเงินเป็นล้านให้กับซินแสให้มาออกแบบทำลายผู้เล่น”
“ยกตัวอย่างคาสิโนที่เราพักอยู่นี้ มีการออกแบบฮวงจุ้ยไว้แรงที่สุด แทบจะเลียนแบบจากมาเก๊ามาทีเดียว”
สองสาวเหมือนทำท่าตื่นตระหนก ตั้งใจฟังอย่างดี
“เริ่มจากม่านน้ำพุ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อสกัดกั้นพลังความโขคดีของผู้เล่นไม่ให้ผ่านไปได้ เสร็จแล้วต้องเดินขึ้นบันไดสีดำ ที่เป็นเหมือนโลงศพ แต่ละขั้นฝังศพผีตายโหงไว้ เพื่อให้ผู้เล่นเหยีบย่ำศพผีตายโหงจะได้โดนวิญญาณเหล่านั้นสาปแช่งให้พบหายนะโชคร้ายต่างๆที่มาทำการเหยียบย่ำพวกตน พอเข้ามายังเจอประตูหมุนเพื่อลดความมีโชคให้ลดลงไปอีกชั้น และประตูที่ติดเครื่องสแกนที่ด้านบนซ่อนห่อผ้าที่หุ้มดินจากเจ็ดป่าช้า มีทั้งตะปูและเศษกระดูกอาคมเล่นของทำให้ผู้เล่นมีแต่ความซวย พรมที่ปูเป็นรูปของแหลมคมหรือ ลวดลาย เพื่อทิ้มแทงและก่อให้เกิดความตาลาย ทำ..”
“พอแล้วป๋า ยิ่งพูดหนูยิ่งกลัว แล้วจะนอนกันได้ไหมเนี้ย..”
“อ้าว เป็นงั้นไป ก็เห็นเป็นเด็กสมัยใหม่ คิดว่าจะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ หากกลัวกันป๋าจะให้ของคุ้มครองแล้วกัน”
ผมพูดแล้วก็ไปหยิบกระเป๋าตัวเอง เปิดออกส่งรูปปั้นขนาดเล็กขึ้นมา 2 องค์เอาใส่กลางฝ่ามือทั้งสองคนๆ ละองค์
สองสาวทำหน้าฉงน ผมจึงเฉลย
“นี้คือรูปปั้นอรหันต์จี้กง เพื่อนป๋าที่ฮ่องกงให้มา หายากนะ”
“อรหันต์จี้กง” ปรางทำท่าคล้ายถาม
“พระจี้กงท่านได้เป็นถึงอรหันต์ แต่อาจมีคนรู้จักนับถือน้อย อาจเพราะท่านเป็นพระที่ไม่สำรวม ไม่ยึดถือกฎเกณฑ์ใดๆ สวมจีวรเก่าขาด ใส่หมวกทรงแหลม มือถือพัดเก่าขาดซอมซ่อ ราวกับกระยาจกขอทาน ดื่มเหล้าและฉันเนื้อสัตว์ ชอบช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากด้วยวิถีของท่าน โดยเฉพาะคนที่อาจหลงผิดเดินไปในทางไม่ดี แต่หากอยากกลับเนื้อกลับตัวท่านก็ให้โอกาสช่วยเหลือ บางครั้งก็ชอบออกไปต่อยตีกับคนร้าย อันธพาล เพื่อสั่งสอนให้เข็ดหลาบ รวมถึงออกไปต่อสู้ปีศาจร้ายที่จะเข้ามาทำลายผู้คนคงเคยได้ดูหนังที่ท่านออกมาต่อสู้กันบ้าง”
“คะ ป๋า”
“แต่ตอนนี้ท่านเป็นอรหันต์ไปแล้ว คงไม่ยุ่งกับใคร แต่ยึดถือท่านเป็นเครื่องเหนี่ยวนำจิตใจแล้วกัน”
“ดังนั้นพวกเธอไม่ต้องหวาดกลัว ที่ป๋ามาบอกทั้งหมดเพื่อต้องการให้รู้ว่าคาสิโนได้ทำทุกวิถีทางที่จะเอาเงินลูกค้าอยู่เสมอ แม้แต่จะใช้สิ่งเร้นลับใดๆก็ตาม คาสิโนจึงเป็นแหล่งอโคจรที่ไม่ควรมาอยู่ เพราะมันเป็นดินแดนแห่งการสาปแช่ง ไปไหนก็โดนสาปแช่งทุกวัน คนที่เอาแต่มาที่แบบนี้ ชีวิตจึงตกต่ำอยู่ตลอด”
“คะ” “คะ”
ทั้งคู่ต่างตอบรับ
“สุดท้าย เรามาลองสรุปกันดูซิ ว่าเราได้อะไรจากวันนี้ ที่เราสามารถนำไปใช้ในชีวิตข้างนอกได้บ้าง”
“เอ้อ ป๋าช่วยสรุปให้พวกเราฟังเลยจะดีกว่าคะ พวกเราคงสรุปไม่ถูกหรอก” ปรางพูดขึ้น ผมเลยหัวเราะ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พวกเธอฟังคนแก่พร่ำบ่น นานๆคงเบื่อและง่วงแล้วใช่ไหม”
“แหม ป๋าไม่ใช่อย่างนั้นหรอกคะ” มิวสิคพูดขึ้นบ้าง
“ไม่เป็นไรเอาละ เห็นตาปรือกันแล้ว อดทนตั้งใจฟังกันอีกนิดเดียว ป๋าจะสรุปสั้นๆ”
สองสาวพยายามยืดตัว ขับไล่ความง่วงตั้งใจฟังอย่างดี
“ที่ป๋าอยากจะบอกคือ การรู้จักสังเกตสภาวะแวดล้อม การอ่านคนที่เข้ามา ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่ทำในคาสิโนเท่านั้น ในชีวิตหนูก็เข่นกัน หากสามารถอ่านสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้มากเท่าไรก็จะยิ่งดี คนที่เข้ามาหาเราก็จะมีปะปนกัน แม้แต่คนที่เราคบด้วย ต้องดูว่าเขานั้นประสงค์ร้ายหรือจริงใจกับเรา หากคนที่เข้ามาชักจูงเราไปในทางที่ผิดก็ควรถอยห่าง คนที่ดีเราก็มีน้ำใจตอบ
ทุกคนจะมีทั้งบวกและลบ มีทั้งสิ่งดีและไม่ดีในตัว ทุกคนที่เราพบเห็น ไม่ว่าจะร้ายหรือดี ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ล้วนเป็นกระจกเงาที่ล้ำค่า ที่ให้เราดูและนำมาไตร่ตรองใช้ตัดสินใจเลือกที่จะทำหรือไม่ทำ เพื่อให้เป็นหรือไม่เป็นอย่างเขา
“ชีวิตคนเรามักจะมีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายเข้ามา ซึ่งจะเป็นทั้งของขวัญและบทเรียน แบบทดสอบให้เราผ่านไปเพื่อให้เราเติบโตและเข้มแข็งขึ้น สำคัญที่ว่าตอนต้องเผชิญกับโชคชะตาร้ายเราตัดสินใจเลือกที่จะทำอย่างไร ไปใช้ต้นทุนที่เรามีอยู่ในตัวผิดไป ขนาดทำให้ตัวเองไร้ค่า หมดแม้แต่ความเชื่อถือ ไม่มีใครอยากแม้แต่จะร่วมมิตรกับเราด้วยหรือไม่ ครั้นพอมีโอกาสดีเข้ามา ตัวเรากลับไม่มีทุนอะไรเหลือที่จะนำมาใช้อัพชีวิตให้ดีขึ้นได้ ได้แต่ยืนมองสิ่งดีที่ผ่านไปอย่างน่าเสียดาย มีชีวิตที่ตกต่ำเช่นเดิม ต้นทุนชีวิตมีค่าและความหมายมากกว่าทุนที่ใช้เล่นพนัน หากไปทำลายจนหมดแล้วยากที่จะมีโอกาสหากลับคืนมาได้อีก
ยามแพ้ต้องรู้จักถอยตั้งหลัก ใช้สติ ความอดทนอดกลั้นอย่าบุ๋มบาม เมื่อมีจังหวะโอกาสดีถึงรุก รีบคว้าเอาไว้ หาจังหวะรู้จักใช้โอกาสดีให้เกิดประโยชน์ เรียนรู้ศึกษาหาข้อมูลให้มาก เมื่อมั่นใจเพราะได้วิเคราะห๋ตามที่หาข้อมูลมาแล้วจึงลงทุน แม้มันไม่ใช่แต่ก็เป็นเพราะเราได้พิจารณาตามหลักการด้วยเหตุด้วยผลแล้ว ไม่ใช่ทำไปเพราะอารมณ์ หลงเชื่อ ด้วยความอยากโลภมาก และรู้จักหาช่องทางใหม่ที่เป็นไปได้มันจะต้องมีสักทางที่ทำให้เห็นโอกาส ดังที่หนูรู้จักเลือกเส้นทางในการแทงบาคาร่านั้นแหละ”
พูดถึงตรงนี้ทุกคนเลยพากันหัวเราะ
“วันนี้หนูก็ได้เรียนรู้ไปหลายอย่างทั้งเรื่องดีและไม่ดี อยู่ที่หนูจะเลือกตัดสินใจเพื่อชีวิตหนูเอง ป๋าไม่สามารถไปกำหนดให้ใครจะเลิกหรือจะเล่นการพนันใดๆ ดังที่พระพุทธเจ้าท่านได้ทรงบอกว่า พระองค์สามารถให้ธรรม และความรู้แก่ทุกคน แต่ไม่สามารถให้ปัญญาแก่ใคร ขึ้นกับคนนั้นได้นำไปพิจารณาและฝึกฝนจึงจะเกิดปัญญาขี้นเอง ดังนั้นป๋าก็ได้แต่หวังว่าหนูจะนำไปพิจารณาและเกิดปัญญาขึ้นเองได้เช่นกัน”
“ป๋าคงพูดได่เท่านี้ ป๋าจะลงเอาเงินไปฝากก่อน”
ผมพูดเสร็จก็จัดการนำไปให้คนนำเข้าบัญชีให้ ตรวจสอบดูจนเงินถูกโอนเข้าบัญชีเรียบร้อย ก็นั่งกินข้าวต้มที่มีรถเข็นนำมาเสริฟแก่ลูกค้าที่เล่นอยู่ตามโต๊ะ ก็เห็นมีเด็กรุ่นใหม่ ๆ ที่เข้ามาเล่นมากมาย ใจก็นึกเป็นห่วงเช่นกัน แต่คงแล้วแต่วิบากกรรมของแต่ละคน ป๋าเอ้อระเหยดูอะไรต่อมิอะไร อยากให้สองสาวได้มีเวลาอยู่ตามลำพัง จึงเตร็ดเตร่อยู่ข้างล่างเป็นชั่วโมงนานพอสมควร
พอขึ้นไปบนห้องก็เห็นทั้งคู่หลับไปแล้ว จึงไม่อยากรบกวน ทั้งคู่คงผ่านเรื่องมาหนัก พอได้ผ่อนคลายจึงหลับสนิทกัน
ตอนนั้นผมกลับไม่ได้คิดอะไรกับทั้งคู่เลย รู้สึกเป็นเหมือนลูกหลานมากกว่า ไหนๆก็ช่วยแล้ว ก็คงต้องช่วยให้ถึงฝั่งหากช่วยครึ่งๆกลางๆก็จะเหมือนกับพายเรือมากลางคลองแล้วปล่อยลง ให้ว่ายกันต่อเองก็อาจจะจมลงได้
หวนคิดถึงตัวเองก็เคยมีเรื่องผิดพลาดมาตั้งหลายอย่างในชีวิต กว่าจะผ่านมาได้ก็ต้องผ่านเรื่องเศร้าแสนสาหัสมาไม่น้อยเช่นกัน
ห้องสูทที่เปิดมันแบ่งเป็นสองส่วน สองสาวนั้นยึดเอาเตียงใหญ่นั้นไปครองแล้ว ผมจึงไปนอนอีกห้องโดยนำเอาที่นอนที่มีสำรองในตู้ออกมาปูนอนแล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนล้าเช่นกัน
………………………………………..
ประเทศไทย เสียงโทรศัพท์มือถือของปรางดังขึ้น
“Hi ปราง เธอเช็คยอดเงินในบัญชีเธอดูหรือยัง”
เสียงมิวสิคพูดมาอย่างเร็ว ด้วยความตื่นเต้น
“มีอะไรหรือ”
“ของเราป๋าเข้าให้เรียบร้อยแล้วนะ เธอไปดูซิ ป๋าโอนให้เราเกินกว่าบัญชีที่เราถอนไปตั้ง 1 แสน แถมมีข้อความส่งถึงว่าหนี้ที่เราค้างป๋ายกให้ ถิอเป็นค่าทำขวัญให้ ป๋าช่างดีจริงๆ ของเธอละ”
“ของเราต้องวางสายจากเธอก่อนถึงเช็คได้”
“ปราง เรามีเรื่องจะบอก”
“อะไรหรือ”
“เราขอเลิกแล้วนะ ไม่ไปอีกแล้วปอยเปตหรือว่าที่ไหน”
“เราได้ให้สัตย์อธิษฐานแล้วว่าหากเราได้เงินคืนมา และผ่านพ้นเรื่องร้ายในคราวนี้ไปได้ จะไม่ข้องแวะกับการพนันใดๆไปตลอดชีวิต เราจะขอทำตามสัตย์อธิษฐาน เราคิดตามที่ป๋าบอกตอนนี้เราเหมือนได้โอกาสที่ 2 มาแล้ว หากเราเลือกที่จะโยนทิ้ง มันจะไม่มีโอกาสที่ 3 อีกแล้ว แล้วเธอละปราง”
“เราก็ขอสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับการพนันอีก หากพลาดไปอีกคงไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแน่”
“ดีแล้วละ เย็นนี้เจอกันนะเรานัดป๋าไว้แล้วด้วย”
“ได้ เดี๋ยวเราขอทำธุระก่อนแล้ว ค่อยเจอกัน บาย”
พอวางสายแล้ว ปรางก็เช็คยอดเงินในบัญชีทันที ถึงกับต้องทำตาโต ตอนป๋าถามว่ายอดเงินบัญชีที่ถอนมามีเท่าไร ปรากฏว่าป๋าก็โอนมาให้ครบแถมเพิ่มให้อีก 1 แสนเช่นกัน
ปรางมองดูพระอรหันต์จี้กงที่ป๋าให้มา
“พระอรหันต์จี้กง ที่แท้ท่านอยู่ไม่ไกล ป๋าคืออรหันต์จี้กงสำหรับหนู ที่มาให้ชีวิตใหม่อีกครั้ง”
เย็นวันนั้น
“โอ้โห มิว เธอแต่งตัวอย่างนี้ ได้โดนป๋าฟัดแน่”
“คิ คิ เธอเองก็เหมือนกันแหละ”
แล้วทั้งคู่ก็ต่างหัวเราะ
ในห้องอาหารแห่งหนึ่ง
“รอนานไหมคะป๋า พวกหนูซื้อแขมเปญมา อยากจะตอบแทนป๋าด้วยคะ”
ป๋าเงยหน้าขึ้นพอเห็นสองสาวถึงกับตะลึง เพราะวันนี้ดูทั้งคู่ช่างสวยหวานกว่าวันก่อนมาก สิ่งที่ป๋าคิดวันก่อนลืมไปเลย คิดแต่ว่าพอเสร็จแล้วจะพาสองสาวไปต่อที่ไหนดีนะ
(เรื่องของป๋ากับพวกเธอต่างเก็บเป็นความลับ และตั้งแต่นั้นมาทั้งคู่ต่างก็ไม่เคยไปเล่นการพนันที่ไหนอีกเลยและไม่เคยแม้แต่พูดถึงเรื่องที่เธอเคยไปคาสิโนให้ใครฟัง)
ไม่มีเรื่องบังเอิญในชีวิตคุณ
[/centerhttps://www.youtube.com/watch?v=MANtlhYUGDg][/center]