ผู้เขียน หัวข้อ: สิ่งที่คนไม่ค่อยรู้ เกี่ยวกับ รอนนี่ โอ ซุลลิแวน นักสนุ๊กเกอร์บอล 1 ตลอดกาล  (อ่าน 2421 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ MaFia

  • จงกล้าได้แต่อย่ากล้าเสีย !
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,045
  • บาคาร่ามันแดกคนโลภ !
    • เซียนคาสิโน
สิ่งที่คนไม่ค่อยรู้ เกี่ยวกับรอนนี่ โอ ซุลลิแวน คือเขาไม่ได้เป็นแค่นักสนุกเกอร์อัจฉริยะอย่างเดียว

แต่เขาเป็นนักเขียนนวนิยายฝีมือฉกาจอีกด้วย

ในปี 2016 เขาเขียนนิยายชื่อ Framed ออกมา และเป็นหนังสือขายดีระดับเบสต์เซลเลอร์

ความดังของ Framed ทำให้รอนนี่ เขียนภาคต่อ ในหนังสือเล่มใหม่ชื่อ Double Kiss ซึ่งก็ขายดีไม่แพ้กัน

ถามว่าหนังสือสนุกขนาดไหน? เว็บไซต์ Goodreads ให้คะแนน Framed 3.9 เต็ม 5 ส่วน Double Kiss ได้ 4.0 เต็ม 5

ลองเทียบกับหนังสือดังอย่าง The Da Vinci Code ของแดน บราวน์ ได้ 3.82 คะแนนเอง ซึ่งตัวเลขนี้ แสดงให้เห็นว่า ฝีมือการเขียนนิยายของโอ ซุลลิแวน นั้นไม่ธรรมดาจริงๆ

หนังสือ 2 เล่มของรอนนี่ โอ ซุลลิแวน เป็นพล็อตเรื่องเกี่ยวกับชายหนุ่มที่ชื่อ "แฟรงค์กี้ เจมส์"

แฟรงค์กี้ วัย 16 โดนคุณแม่ทิ้งไป ขณะที่คุณพ่อต้องติดคุก ข้อหาปล้นร้านค้า ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตในลอนดอนอยู่กับน้องชายเพียง 2 คนเท่านั้น แฟรงค์กี้ ต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดในโลกที่โหดร้ายให้ได้

นิยายเรื่องนี้ได้รับคำชมมากๆ ว่าเขียนได้อารมณ์และสะท้อนให้เห็นว่า ชีวิตของวัยรุ่นคนหนึ่งที่ต้องเอาชีวิตรอดโดยไม่มีพ่อแม่ เด็กคนนี้ต้องพยายามดิ้นรนขนาดไหน

คำถามคือ ทำไมนักกีฬาอย่างรอนนี่ ถึงเขียนได้ดีขนาดนั้น?

จริงๆมันก็มีเหตุผลอยู่ข้อเดียว เพราะมันถ่ายทอดเรื่องมาจากชีวิตของเขาแทบทั้งหมด

แฟรงค์กี้ เจมส์ ในหนังสือ คือ รอนนี่ โอ ซุลลิแวน ในชีวิตจริง

----------------------------------

ในปี 1972 โรนัลด์ จอห์น หนุ่มอังกฤษวัย 18 ปี เขาทำงานเป็นเชฟในร้านอาหาร

โรนัลด์ จอห์น ได้พบรักกับ สาวเสิร์ฟ มาเรีย คาตาลาโน่ สาวสวยชาวอิตาเลียน วัย 17 ปี ที่อพยพมาอยู่ในอังกฤษ

ทั้งคู่อินเลิฟกันอย่างรวดเร็ว และแต่งงานกันหลังคบกันได้แค่ 1 ปีเศษ

ทั้งคู่ไม่ได้มีความรู้อะไรมาก แต่ก็ทำงานอย่างหนัก โรนัลด์ จอห์น นอกจากเป็นเชฟ เขาทำงานเสริมเป็นพนักงานขายในร้านเซ็กซ์ช็อป ขณะที่มาเรีย นอกจากเป็นเด็กเสิร์ฟ เธอยังทำงานล้างรถอีกด้วย

หลังจากเก็บประสบการณ์ในการขายที่เซ็กซ์ช็อป โรนัลด์ จอห์น ตัดสินใจเปิดร้านเซ็กซ์ช็อปของตัวเอง และปรากฏว่า ธุรกิจของเขารุ่งเรืองมาก

ร้านของเขาตั้งอยู่ที่ย่านโซโห ใจกลางลอนดอน ขายครบทุกอย่างทั้ง หนังสือโป๊, วีดีโป๊ และ เซ็กซ์ทอย

แน่นอนล่ะ นี่มันไม่ใช่อาชีพที่ดูสวยหรูนัก แต่มันทำกำไรมหาศาล แค่ปีแรกที่เขาเปิดร้านเต็มตัว สามารถทำเงินได้ 360,000 ปอนด์ (ประมาณ 15 ล้านบาท) ในปีเดียว

ณ ตอนนี้ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เขากับมาเรีย ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ ตอนนี้สามารถวาดฝันในการซื้อชีวิตที่มีความสุขได้แล้ว

ในปี 1975 โรนัลด์ จอห์น เอาเงินไปซื้อบ้านที่เมืองชิกเวลล์ หมู่บ้านเล็กๆเงียบสงบ ห่างจากลอนดอนไป 21 ไมล์ ในอนาคตถ้าเขามีลูก ก็ต้องการให้ลูกได้เติบโตอย่างมีคุณภาพที่นี่

จากนั้นในปี 1975 มาเรียให้กำเนิดลูกชายคนโต เด็กคนนี้มีชื่อว่า รอนนี่ และอีก 8 ปีต่อมา ก็มีลูกสาวคนเล็ก ชื่อ ดานิแอล

ปี 1983 วันเกิดครบ 8 ขวบของรอนนี่ คุณพ่อโรนัลด์ จอห์น ให้ของขวัญเป็นโต๊ะสนุกเกอร์ขนาดเล็ก ปรากฎว่า เจ้าหนูรอนนี่ชอบมาก เขาตบกระจุยอย่างแม่นยำ จนทำให้คนที่บ้านทึ่งกันหมด นั่นทำให้คุณพ่อ ตัดสินใจสร้างห้องสนุกเกอร์ขึ้นมาในบ้าน เพื่อให้รอนนี่ ได้เล่นสนุกเกอร์อย่างเต็มที่

ในวัย 8 ขวบ ขณะที่เด็กคนอื่น กำลังวิ่งเล่นในสนามเด็กเล่น แต่กิจกรรมที่ทำให้เจ้าหนูรอนนี่รู้สึกมีความสุขที่สุด คือการสอยคิวบนพื้นสักหลาด

จากนั้นเมื่อรอนนี่อายุ 10 ขวบ เขาเก่งขึ้น ขนาดที่แทงเซ็นจูรี่เบรกได้สำเร็จ รอนนี่กดไปสบายๆ 117 แต้ม

"ความฝันของผมคือเป็นแชมป์โลกอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ผมอยากได้แชมป์โลกตอนอายุ 12" รอนนี่ เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้

พออายุ 12 จริงๆ แม้เขาจะไปไม่ถึงแชมป์โลกแบบที่ฝันไว้ แต่รอนนี่ ก็เริ่มลงแข่งจริงจังในรายการระดับสมัครเล่น และ ทำเงินได้หลักหมื่นปอนด์ต่อปี ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดา

ปัญหาของรอนนี่ ตอนนั้นคือเขาเก่งเกินไป และในเมืองชิกเวลล์ไม่มีคู่ซ้อมให้เขาอีกแล้ว ทำให้คุณพ่อโรนัลด์ จอห์น ยอมทุ่มเงินมหาศาล ไปจ้างเคน โดเฮอร์ตี้ แชมป์เยาวชนโลกชาวไอร์แลนด์ มาเป็นคู่ซ้อมให้รอนนี่ที่บ้าน

"คุณพ่อของรอนนี่ เขาตลกดีนะ ใจดี แถมจ่ายเงินหนักอีกด้วย ดูก็รู้แล้วว่าเขารักลูกชายของเขามากจริงๆ" โดเฮอร์ตี้กล่าว

ฝีมือของรอนนี่พัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุด ในวัย 15 เขาร่วมแข่งขันรายการชิงแชมป์เยาวชนอังกฤษ ที่อัลเดอร์ช็อต และทำ 147 แต้มได้สำเร็จ

กลายเป็นนักสนุกเกอร์อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ทำแม็กซิมั่มเบรกได้

ทุกคนมั่นใจว่า ดาวรุ่งของวงการคนนี้จะประสบความสำเร็จที่สุด และจะสามารถคว้าแชมป์สนุกเกอร์สมัครเล่นโลก ในปี 1991 ที่จัดที่กรุงเทพได้แน่ๆ ด้วยฟอร์มแบบนี้ ความมั่นใจแบบนี้ รับรองไม่มีพลาด

----------------------------------

สำหรับโรนัลด์ จอห์น ชีวิตของเขากำลังมีความสุขสุดขีด

ธุรกิจเซ็กซ์ช็อปของเขานับวันยิ่งรุ่งเรือง จากที่เคยเปิดสาขาเดียว ตอนนี้กลายเป็นแฟรนไชส์มีถึง 20 สาขาทั่วประเทศ

เขามีภรรยาแสนสวย มีลูกสาวน่ารัก และลูกชายที่เป็นนักสนุกเกอร์อัจฉริยะ

ทุกอย่างเพอร์เฟ็กต์ และสวยงาม ในวัย 37 ปี เขาได้ทุกอย่างมาครอบครองเร็วกว่าที่ตัวเองคาดคิดไว้

เพียงแต่เขาไม่รู้เลยว่า อารมณ์ร้อนแค่วูบเดียว จะทำให้ชีวิตของเขาพังพินาศไปในพริบตา

----------------------------------

12 ตุลาคม 1991 โรนัลด์ จอห์น กับเพื่อนสนิท เอ็ดเวิร์ด โอเบรียน ไปดื่มเหล้าที่ผับประจำชื่อสต๊อกส์ ในย่านเชลซี

หลังจากดื่มไปสักพักจนเริ่มเมา ทั้งคู่ก็เริ่มล้งเล้งโวยวาย มีการร้องเพลงเชียร์ฟุตบอล และพูดจาหยาบคายใส่โต๊ะอื่นๆ

ในร้านขณะนั้น มีชายผิวดำ 2 คน คือพี่น้องตระกูลไบรอัน บรูซ กับ เคลวิน โดยทั้งคู่กำลังดื่มร่วมกับ สาวผิวขาว 4 คน

โรนัลด์ จอห์น ด้วยความเมา จึงเดินไปที่โต๊ะของพี่น้องไบรอัน แล้วบอกว่า นี่เป็นถิ่นเขา เดี๋ยวเขาจ่ายเงินให้ 250 ปอนด์ ขอเลี้ยงทั้งโต๊ะเอง

พี่น้องไบรอัน ปฏิเสธ พวกเขาจัดการค่าเครื่องดื่มได้ ไม่มีปัญหา ซึ่งนั่นทำให้โรนัลด์ จอห์นเสียหน้า

"โอ ซุลลิแวน เริ่มหยาบคายขึ้นเรื่อยๆ เขาตะโกนด่าเราว่า ไอ้มืด nigger nigger nigger" เคลวิน ไบรอันเล่า

"เขาด่าเราว่า มึงคิดว่ามึงเป็นใครวะ มาในผับนี้พร้อมกับสาวผิวขาว 4 คน มึงคิดว่าตัวเองเป็นไนเจล เบนน์ หรือไง"

การโต้เถียงรุนแรงขึ้นมาก ทางโอเบรียนพยายามจะดึงโรนัลด์ จอห์น ออกจากตรงนั้นเพราะกลัวเรื่องจะบานปลาย แต่ด้วยความเมา และความคะนอง ทำให้โรนัลด์ จอห์นยังโต้คารมกับพี่น้องไบรอันต่อ

สุดท้ายไม่รู้ใครเริ่มก่อน การตะลุมบอนก็เกิดขึ้น บรูซ ไบรอัน ขว้างที่เขี่ยบุหรี่ ใส่หน้าโรนัลด์ จอห์นจนกระเด็น

โรนัลด์ จอห์น ฟิวส์ขาด คว้ามีดความยาว 6 นิ้วที่บาร์แทงบรูซ ไบรอัน ไปเต็มๆ จากนั้น เคลวิน ก็หยิบเอาขวดแชมเปญ ฟาดหัวโรนัลด์ จอห์นไปอีกดอก

ทุกอย่างชุลมุนไปหมด กว่าตำรวจจะมาระงับเหตุการณ์ก็ผ่านไปหลายนาที ตอนนี้ร้านสต๊อกส์เละเทะไปหมดแล้ว

รถพยาบาลนำตัว โรนัลด์ จอห์น ส่งโรงพยาบาล ขณะที่เอ็ดเวิร์ด โอเบรียน กับ เคลวิน ไบรอัน บาดเจ็บเล็กน้อย

ขณะที่ บรูซ ไบรอัน ที่โดนมีดแทง เขาจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ในผับ เหตุการณ์นี้มีคนตาย 1 คน

พยานหลักฐานทุกอย่างบ่งชัดมาก ว่าฆาตกร คือโรนัลด์ จอห์น เขาไม่มีทางดิ้นหลุดจากคดีนี้ ด้วยความอารมณ์ร้อน และด้วยฤทธิแอลกอฮอล์ ทำให้เขากลายเป็นคนร้ายฆ่าคน

จากชีวิตกำลังสวยงามเพอร์เฟ็กต์ การยั้งสติไม่อยู่แค่ 1 ครั้ง มันเปลี่ยนทุกอย่างไปหมด

----------------------------------

ตอนเกิดเหตุการณ์นี้ รอนนี่ วัย 16 กำลังแข่งขันรายการสมัครเล่นชิงแชมป์โลกที่กรุงเทพ และตอนรู้ข่าว เขาไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรอีกแล้ว

ในรายการนี้คนที่ทำแม็กซิมั่มเบรกได้ จะได้รถวอลโว่ 1 คัน ซึ่งมีเฟรมหนึ่งรอนนี่ ตบชุดแดงดำ มา 13 ชุดแล้ว ควรจะเก็บ 147 แต้มได้ไม่ยาก แต่กลับพลาดง่ายๆ จนชวดรถวอลโว่อย่างไม่น่าเชื่อ

รายการนั้นหนู ดาวดึงส์ คว้าแชมป์ได้สำเร็จ ขณะที่เต็ง 1 อย่างรอนนี่ ตกรอบ 16 คนสุดท้าย

ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ สภาพจิตใจของเขาขณะนั้น ไม่พร้อมจะลงแข่งรายการอะไรอยู่แล้ว

รอนนี่ บินกลับอังกฤษทันที ปรากฏว่าคุณพ่อของเขาตอนนี้ อยู่ในเรือนจำบริกซ์ตัน

คุณพ่อคนนั้นที่เคยใจดีเสมอ รู้ตัวอีกที เขาได้แต่คุยกับพ่อในชุดนักโทษผ่านลูกกรง

โรนัลด์ จอห์น โดนตัดสินโทษจำคุก 18 ปี ข้อหาฆ่าคนตาย ด้วยหลักฐานทั้งหมด นี่ไม่ใช่การป้องกันตัว

สำหรับโรนัลด์ จอห์น ชีวิตของเขา ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป

ไม่ใช่แค่โรนัลด์ จอห์นคนเดียว แต่ตัวลูกชายรอนนี่ ชีวิตของหนุ่มวัย 16 คนนี้ก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลยนับจากวันนั้น

----------------------------------

ปี 1993 สองปีหลังคุณพ่อติดคุก คุณแม่มาเรีย ก็มาโดนคดีหลีกเลี่ยงภาษี ต้องเข้าคุกไปอีกคน

เท่ากับว่าตอนนี้ รอนนี่วัย 18 ปี จำเป็นต้องหาเงินคนเดียวเพื่อมาเลี้ยงดูน้องสาววัย 10 ขวบ เขาต้องเป็นทั้งพี่ และพ่อ ของดานิแอล

รอนนี่ ต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร จะดำเนินธุรกิจเซ็กซ์ช็อปของพ่อต่อ หรือจะมุ่งมั่นกับการเป็นนักสนุกเกอร์ตามความฝัน

เขาลองพยายามทำทั้ง 2 อย่างไปพร้อมๆกัน แต่มันก็ไม่เวิร์ค รอนนี่ มีความเครียดสั่งสมกับปัญหาทุกอย่างที่ต้องแบกรับ ในวัย 18 ปี พ่อแม่ติดคุกทั้งคู่ จากที่เคยใช้ชีวิตง่ายๆ ตอนนี้เขาต้องจัดการเองทุกอย่าง

รอนนี่ เริ่มติดเหล้าและเล่นยา เขาไม่รู้จะจัดการทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวอย่างไร

จากเดิมที่เขาคิดว่าสนุกเกอร์ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุข แต่รอนนี่ เริ่มเกลียดสนุกเกอร์มากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่มีความฝันบ้าบอนี่ซะอย่าง ชีวิตเขาคงไม่พังแบบนี้

ถ้าวันนั้นเขาไม่ไปแข่งสนุกเกอร์ที่ต่างประเทศ พ่ออาจจะไม่ไปเที่ยวผับกับเพื่อน

ถ้าไม่มีสนุกเกอร์ เขาคงสานงานต่อที่ร้านเซ็กซ์ช็อปไปเลย ไม่ต้องมาตัดสินใจทำทุกอย่างพร้อมกันแบบนี้

เขาเกลียดมัน ถึงแม้ตัวเองจะมีพรสวรรค์ แต่เขาเกลียดสนุกเกอร์จริงๆ

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่รอนนี่กำลังเคว้งคว้าง คนเดียวที่ช่วยทำให้เขากลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็น คือโรนัลด์ จอห์น

ครั้งหนึ่ง ตอนที่รอนนี่ไปเยี่ยมพ่อในคุก คุณพ่อบอกว่า ทุกครั้งที่ได้เห็นรอนนี่แข่งขันสนุกเกอร์จากทีวีในคุก มันช่วยให้เขามีแรงใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปได้

"ผมจึงตัดสินใจได้ว่า ผมจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด แม้ผมจะเกลียดมันแค่ไหน ผมไม่สามารถพรากความสุขหนึ่งเดียวของพ่อได้จริงๆ"

ดังนั้น รอนนี่ จึงสู้ต่อไป เขาพยายามจัดการร้านเซ็กซ์ช็อปให้ดีที่สุด โดยหาคนที่ไว้ใจได้มาช่วยรันกิจการ ส่วนตัวเองก็เดินหน้าสู้ต่อในสังเวียนสนุกเกอร์อย่างจริงจัง

ตั้งแต่อายุ 18 รอนนี่ ต้องหาเงินมาหล่อเลี้ยงทั้งครอบครัว ความอัจฉริยะ ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบที่มหาศาล

และในที่สุด 7 ปี หลังจากที่คุณพ่อติดคุก รอนนี่ โอ ซุลลิแวน ก็สามารถคว้าแชมป์โลกที่ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ได้สำเร็จด้วยวัย 25 ปี นอกจากนั้นเขายังเก็บร้านเซ็กซ์ช็อปเอาไว้ได้สำเร็จด้วย

แม้ว่าต้นเหตุของเรื่องนี้ คือคุณพ่อ ที่ทำให้ชีวิตทุกอย่างลำบากใจไปหมด แต่รอนนี่ ไม่เคยโกรธพ่อเลย

"คุณพ่อ เขาแค่อยู่ผิดที่ ผิดเวลาเท่านั้น เขาไม่ได้มีเจตนาจะไปฆ่าใคร"

ขณะที่โรนัลด์ จอห์นเอง สิ่งที่เขาเสียใจที่สุด ยิ่งกว่าการเป็นฆาตกร คือต้องปล่อยให้คนที่เขารักต้องต่อสู้เพียงลำพัง

โดยที่ตัวเขาทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว

----------------------------------

ในชีวิตของเรา ถ้าไม่มีใครให้ต้องผูกพัน เราสามารถจะทำอะไรก็ได้

อยากไปไหน อยากทำอะไร บ้าบอแค่ไหน เสี่ยงตายเท่าไหร่ ก็สามารถทำได้ทั้งนั้น

แต่ในวันหนึ่ง เมื่อมีคนที่อยู่ข้างหลังให้ต้องห่วงแล้ว การกระทำทุกอย่าง จำเป็นต้องคิดให้มากขึ้น

เพราะถ้าเราเป็นอะไรไป ชีวิตของพวกเขาจะไม่เหมือนเดิมทันที

คิดให้ดีว่า ถ้าวันนี้ไม่มีเรา ... คนที่เขามีเราเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เขาจะอยู่ได้ไหม

อย่าให้การไร้สติแค่ครั้งเดียว ทำลายทุกๆอย่าง

เมื่อมีครอบครัว ชีวิตไม่ได้เป็นแค่ของเราคนเดียวอีกต่อไปแล้ว

เมื่อเราต้องเสียใจ รู้ไหม คนที่ร้องไห้ ไม่ได้มีแค่เราคนเดียว